วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2557

Learning by English Songs เรียนภาษาผ่านบทเพลง 4


Officially Yours by Craig David

         ถ้าคุณจะทำอะไรแบบ officially นั้นหมายความว่า คุณทำสิ่งนั้นอย่างเป็นทางการ เช่น You are now officially married. (ตอนนี้คุณได้แต่งงานอย่างเป็นทางการแล้ว) ในเพลงนี้นักร้องยังไม่ถึงขั้นแต่งงานแต่แค่อยากประกาศอย่างเป็นทางการให้รู้ว่า เป็นแฟนกัน ต้องประกาศอย่างนี้ด้วยเหรอ? Craig…เว่อไปหรือเปล่า? … ในเพลงนี้ Craig David ใช้สำนวน to go on the record ซึ่งหมายถึง ประกาศให้ทุกคนทราบ ลองนำมาใช้ดูนะคะ แล้วเขา(คนนั้น)จะกลายมาเป็นของคุณอย่างเป็นทางการ ….อิอิ


Thinkin' how the story goes
มาคิดๆดูว่าเรื่องราวต่างๆดำเนินไปอย่างไร

You're helpless and I'm wishin'
คุณทำอะไรไม่ถูก ส่วนผมก็ได้แต่หวัง
Put the film inside my mind
เอาฟิล์มใส่ลงไปในจิตใจของผม
But there's a big scene that I'm missin'
และมีฉากสำคัญฉากหนึ่งที่ผมพลาดไป

As I re-read my lines
ในขณะที่ผมทบทวนบทพูดของผม
I think I said this, I should've said that
ผมคิดว่าผมได้พูดไปเช่นนั้น แต่ผมน่าจะพูดเช่นนี้
Did you edit me out of your mind?
หรือคุณตัดผมออกจากใจคุณไปแล้ว?

'Cos in a flash you had disappeared, gone (gone)
เพราะในชั่วพริบตาเดียว คุณก็หายไปแล้ว หายจากไป (จากไป)


Before the curtain falls
ก่อนที่ม่านจะปิดตัวลง
And we act this out again
และเรามาเริ่มแสดงกันอีกครั้งหนึ่ง
Maybe I should risk it all and state
บางทีผมควรจะลองเสี่ยงดูอีกครั้งและพูดออกมา


[Chorus]

That I'm officially going on the record
ว่าผมจะประกาศอย่างเป็นทางการ
To say I'm in love with you
และพูดว่าผมหลงรักคุณเข้าแล้ว
I'm officially everything you hope that I would be
ผมเป็นทุกอย่างที่คุณหวังให้ผมเป็นอย่างเป็นทางการ

This time I'll tell the truth
และครั้งนี้ ผมจะพูดความจริงออกไป

I'm officially wrong I know
ผู้รู้ว่าผมผิดอย่างเป็นทางการ
For letting you go the way I did
ที่ผมปล่อยคุณไปอย่างที่ผมเคยทำ
Unconditionally more than I ever was before
ไม่มีเงื่อนไขใดๆอย่างที่ผมเคยเป็นมาแต่ก่อน


I'm officially yours
ผมเป็นของคุณอย่างเป็นทางการ

La da day, la da day
La da da da da oh

[Verse 2]
Travellin' down this road again
เดินทางบนถนนเส้นนี้อีกครั้งหนึ่ง
Gotta make a few decisions
จำเป็นต้องตัดสินใจบางอย่าง
Don't want you to feel this hurt again
ไม่อยากให้คุณต้องรู้สึกเจ็บปวดเช่นนี้อีก
That's why I'm hopin' that you'll listen
นั่นคือสาเหตุที่ผมอยากจะให้คุณฟัง

If you let me press rewind
ถ้าคุณยอมให้ผมกดปุ่มย้อนกลับ
I'll rehearse every word I should have said
ผมจะซักซ้อมทุกคำพูดที่ผมควรจะพูดออกมาให้ดี

'Cos girl I'm ready to make things right
เพราะที่รัก ผมพร้อมแล้วที่จะทำให้ทุกอย่างถูกต้อง

Here on this stage so we can move on (on)
ณ เวทีแห่งนี้ เพื่อที่เราจะได้เดินหน้าต่อไป (ต่อไป)
And before the curtain falls
และก่อนที่ม่านจะปิดตัวลง
And we act this out again
และเราสองคนเริ่มต้นการแสดงใหม่อีกครั้ง
Missin' pieces I'll resolve so stay
ผมจะแก้ไขส่วนที่ขาดหายไป ดังนั้น คุณอยู่ต่อเถอะ

[Chorus]
[Bridge]
Things I should have said
สิ่งต่างๆที่ผมควรจะพูดออกไป
Like I appreciate the time that I spend with you
อย่างเช่น ผมรู้สึกซาบซึ้งกับช่วงเวลาที่ผมอยู่กับคุณ
Inspire me with the smile I put on your pretty face

ผมได้แรงบันดาลใจจากรอยยิ้มที่ผมสร้างให้เกิดบนใบหน้าน่ารักของคุณ
My world comes alive, now I know (now I know it babe)

โลกของผมกลับมามีชีวิตชีวา และตอนนี้ผมรู้ซึ้งแล้ว (ตอนนี้ผมรู้ซึ้งแล้วที่รัก)


This time I'm not letting go
ครั้งนี้ ผมจะไม่ยอมปล่อยไป
'Cos I'm officially yours (oh oh)
เพราะผมเป็นของคุณอย่างเป็นทางการ

[Outro]
Girl I'm unconditionally yours (oh yeah)
ที่รัก ผมเป็นของคุณอย่างไม่มีเงื่อนไข
Officially yours, your man (La da day, la da day, la da day)
เป็นผู้ชายของคุณอย่างเป็นทางการ 
Girl I'm unconditionally yours (La da da da da oh)
ที่รัก ผมเป็นของคุณอย่างไม่มีเงื่อนไข
Officially yours, I am
ผมเป็นคนของคุณอย่างเป็นทางการ 

Girl I'm unconditionally yours (listen what I'm tryna say)
ที่รัก ผมเป็นของคุณอย่างไม่มีเงื่อนไข (ฟังในสิ่งที่ผมพยายามจะบอก)
Officially yours, your man (oh oh)
เป็นผู้ชายของคุณอย่างเป็นทางการ 
Girl I'm unconditionally yours
ที่รัก ผมเป็นของคุณอย่างไม่มีเงื่อนไข

Officially yours, I am
ผมเป็นคนของคุณอย่างเป็นทางการ


Learning by English Songs เรียนภาษาผ่านบทเพลง 3



Brian McKnight - Back At One 


Back at One : เพลงนี้เป็นอีกเพลงที่ค่อนข้างเก่าแล้ว แต่ความหมายนี่บอกเลยว่าสุดยอดมากๆ
เป็นเพลงรัก ซึ้งๆ อีกเพลงที่น่าสนใจ เอาไปใช้จีบคนที่เราแอบปลื้มได้เลยนา...
ไปดู พร้อมฟัง และเรียนรู้ความหมายดีๆ ผ่านบทเพลงนี้เลยค่ะ...



It’s undeniable that we should be together 
It’s unbelievable  How I used to say that I’d fall never 

The basis is need to know If you don’t know just how I feel 
Then let me show you now that I’m for real 
If all things in time Time will reveal 



อย่าปฏิเสธเลย เรื่องที่เราควรจะอยู่ด้วยกัน

ไม่น่าเชื่อเลย เป็นไปได้ยังไงที่ตัวเองเคยพูดว่าจะไม่มีทางตกหลุมรักใครเด็ดขาด
ผมจำเป็นต้องบอกพื้นฐานสำคัญให้คุณรู้เอาไว้
ถ้าหากคุณยังไม่รู้ว่าผมรู้สึกอย่างไรกับคุณ
แล้วผมจะแสดงให้คุณเห็นว่า ตอนนี้ผมเป็นตัวจริงของคุณ
สิ่งที่ผมมีทั้งหมดในขณะนี้""เวลาจะเป็นเครื่องบ่งบอกเอง



One – you’re like a dream come true 

Two – just wanna be with you 
Three – Girl it’s plain to see that you’re the only one for me 
Four – repeat steps one through three 
Five – make you fall in love with me 
If ever I believe my work is done 
Then I’ll start back at one 



ข้อแรกเลย คุณเป็นเหมือนฝันที่กลายเป็นจริง

ข้อสอง ผมเพียงอยากอยู่กับคุณ
ข้อสาม เป็นเรื่องธรรมดาที่จะเห็นว่าคุณคือคนเดียวสำหรับผม
ข้อสี่ ย้อนกลับไปยังข้อหนึ่งถึงสาม
ข้อห้า แล้วมันจะทำให้คุณตกหลุมรักผม
หากแม้ผมเชื่อว่าทฤษฏีของตัวเองได้ผล
จากนั้นผมจะกลับไปเริ่มต้นที่หนึ่งอีกครั้ง



So Incredible 

The way things work themselves out 
And all emotional 
Once you know that it’s all about, hey 
And undesirable 
For us to be apart 
Never would of made it very far 
Cause you know you got the keys to my heart 



ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยว่า

ทฤษฏีนั้นมีสูตรสำเร็จในตัวของมันเอง
แล้วอารมณ์ทั้งหมด
แค่ครั้งเดียว รู้ไหมว่ามันคือทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกัน
และสิ่งที่ไม่ต้องการคือ
การปล่อยให้เราสองคนเป็นเพียงแค่อดีตไป
ไม่เคยทำให้มันกลายเป็นเรื่องยุ่งยาก
เพราะอะไรรู้ไหม คุณมีกุญแจไขเข้าสู่หัวใจของผมยังไงละ




Say farewell to the dark of night 

I see the coming of the sun 
I feel like a little child 
whose life has just begun 
You came and breathed new life 
Into this lonely heart of mine 
You threw out the life line 
Just in the nick of time 



กล่าวลากับความมืดมิดในยามค่ำคืน

ฉันมองเห็นดวงอาทิตย์ที่กำลังจะโผล่ขึ้นมา 
รู้สึกเหมือนอย่างกับเด็กน้อย
ที่ชีวิตเพิ่งจะเริ่มต้น 
คุณเข้ามาแล้วหายใจเอาชีวิตใหม่
เข้ามาในหัวใจของผมที่เปล่าเปลี่ยวดวงนี้ 
คุณได้ทิ้งชีวิตเก่าของผม
ได้ทันเวลาพอดี




Learning by English Songs เรียนภาษาผ่านบทเพลง 2






Gabrielle - Out Of Reach


         นี้ก็เป็นอีกหนึ่งเพลงของคนที่ผิดหวังในความรัก เพลง  out of reach  แปลว่า ไกลเกินเอื้อมหรือเอื้อมไม่ถึงนั่นเอง เป็นเพลงที่มีจังหวะและท่วงทำนองไพเราะ ฟังง่าย ความหมายของเพลงนี้ออกแนว ประมาณว่า ผิดหวังในความรัก แล้วรู้ว่าคงกลับมาเป็นแบบเดิมยาก ทางที่ดีต้องตัดใจจากเขาให้ได้ เพื่อไม่ปล่อยให้ชีวิตที่เหลือจมปลักอยู่กับความรักที่มันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว สำหรับคนที่ผิดหวัง หัวอกเดียวกัน ไปดูเนื้อเพลงและคำแปลกันเลย   ....



Knew the signs wasn't right 

ฉันรู้ว่าวี่แววมันไม่ดีแล้ว
I was stupid for a while 
ฉันงี่เง่าไปชั่วครู่
Swept away by you 
ที่ไปรักเธอเข้า
And now I feel like a fool 
และตอนนี้ ฉันรู้สึกว่า ฉันเหมือนคนโง่



*So confused, my heart's bruised 
ฉันสับสน ใจฉันมันแหลกสลายไปหมด 
Was I ever loved by you? 
เธอเคยรักฉันบ้างไหมเนี่ย 
**Out of reach, so far 

ไกลสุดเอื้อม ไกลเหลือเกิน

I never had your heart 

ฉันไม่เคยได้ใจเธอมาครอบครองเลย

Out of reach, couldn't see 

สุดเอื้อม มองไม่เห็นวี่แววเลย 

We were never meant to be 

เราไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นคู่กันหรอก 



Catch myself from despair 
พาตัวเองออกไปจากความสิ้นหวังซะเถอะ
I could drown if I stay here 
ฉันอาจจะตายด้วยความโศกเศร้าหากฉันยังอยู่ตรงนี้ต่อไป
Keeping busy everyday 
ฉันต้องทำตัวไม่ให้ว่างในทุกๆ วันที่ผ่านไป
I know I will be OK 
ฉันรู้ว่า ฉันคงต้องหายดี 
But I was
แต่ที่ผ่านมาฉันปวดใจเหลือเกิน



[Repeat *, **]



So much hurt, so much pain
ช่างเจ็บปวด ช่วงรวดร้าวเหลือเกิน
Takes a while to regain what is lost inside
คงต้องใช้เวลาสักระยะที่จะทำให้สิ่งที่สูญเสียไปนั้นกลับคืนมาอีกครั้ง
And I hope that in time,you'll be out of my mind
และฉันก็หวังว่า ไม่นาน ฉันจะพาใจออกมาได้
And I'll be over you
และฉันจะลืมเธอได้
But now I'm
แต่ตอนนี้ ฉันยังคิดถึงเธออยู่



[Repeat *, **] 



Out of reach, so far
สุดเอื้อม ไกลเหลือเกิน
You never had my heart
เธอไม่มีวันจะได้ครอบครองหังใจฉันหรอก
In my reach, I can see 
ฉันสามารถเห็นแล้วว่า ไม่ไกลเกินเอื้อมหรอก
There's a life out there for me
ชีวิตของฉัน รอฉันอยู่



Learning by English Songs เรียนภาษาผ่านบทเพลง 1


The Corrs - What Can I Do



ฉันควรทำยังไงดีให้เธอรักฉัน ให้เธอสนใจฉัน ฉันควรทำยังไงดี

    สำหรับคนที่มีความรัก และแอบรักเขาข้างเดียว กินไม่ได้นอนไม่หลับ อยู่ไม่เป็นสุขเพราะเขาคนนั้น....สำหรับคนที่มีความรู้สึกแบบนี้
มาลองฟังบทเพลงผ่านภาษาอังกฤษ เนื้อร้องพร้อมคำแปลกันค่ะ...
รับรอง...คุณคงไม่ได้รู้สึกไปแค่เพียงคนเดียวแน่ๆ...

I haven't slept at all in days
It's been so long since we've talked
And I have been here many times
I just don't know what I'm doing wrong 
ฉันนอนไม่หลับมาหลายวันแล้วนะ
เหมือนมันจะนานมากเลยนะ ตั้งแต่ที่เราคุยกัน
และฉันเองก็เป็นแบบนี้มาหลายรอบแล้ว
               ฉันแค่ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดไปหรือเปล่า

What can I do to make you love me 
What can I do to make you care 
What can I say to make you feel this 
What can I do to get you there 
ฉันต้องทำยังไง...เธอถึงจะรักฉัน
ฉันต้องทำยังไง...เธอถึงจะสนใจฉันบ้าง
ฉันจะพูดยังไง...ให้เธอเข้าใจความรู้สึกนี้
ฉันต้องทำยังไง...ให้เธอมาอยู่ตรงนี้
There's only so much I can take 
And I just got to let it go 
And who knows I might feel better 
If I don't try and I don't hope 
มันมากเกินกว่าที่ฉันจะทนได้แล้วนะ
และฉันก็ควรปล่อยให้มันเป็นแบบนี้
ก็ใครจะรู้ล่ะ ฉันอาจจะรู้สึกดีกว่านี้ก็ได้
ถ้าฉันไม่พยายาม และฉันก็ไม่หวังอะไร

What can I do to make you love me
What can I do to make you care
What can I say to make you feel this
What can I do to get you there 
ฉันต้องทำยังไง...เธอถึงจะรักฉัน 
ฉันต้องทำยังไง...เธอถึงจะสนใจฉันบ้าง
ฉันจะพูดยังไง...ให้เธอเข้าใจความรู้สึกนี้
ฉันต้องทำยังไง...ให้เธอมาอยู่ตรงนี้

No more waiting, no more aching
No more fighting, no more trying 
จะไม่รอต่อไปแล้ว จะได้ไม่ต้องเจ็บปวดอีก
จะได้เลิกต่อสู้สักที จะไม่มีความพยายามอะไรอีกแล้ว 
Maybe there's nothing more to say 
And in a funny way I'm calm 
Because the power is not mine 
I'm just gonna let it fly 
อาจจะไม่ต้องพูดอะไรไปมากกว่านี้
และมันก็เหมือนเรื่องตลกที่ฉันใจเย็นอยู่แบบนี้
เพราะไม่มีแรงพอที่จะคิดอะไรออกแล้ว
ฉันก็แค่ปล่อยให้มันเป็นไป
What can I do to make you love me 
What can I do to make you care 
What can I say to make you feel this 
What can I do to get you there 
ฉันต้องทำยังไง...เธอถึงจะรักฉัน
ฉันต้องทำยังไง...เธอถึงจะสนใจฉันบ้าง
ฉันจะพูดยังไง...ให้เธอเข้าใจความรู้สึกนี้
ฉันต้องทำยังไง...ให้เธอมาอยู่ตรงนี้


กฏการเติม ing ที่ท้ายกริยา ( Gerund or ing form)


กฏการเติม ing ที่ท้ายกริยา ( Gerund or ing form)


หรือ ing form ได้แก่รูปแบบการเติม ing ที่ท้ายคำกริยาเพื่อนำไปใช้ในประโยค present continuous และ past continuous และ เพื่อสร้างคำนาม (noun) จากการคำกริยา (verb) มีหลักการเติม ดังนี้
1.   คำกริยาทั่วไป เติม ing ได้ทันที เช่น sleep = sleeping , visit = visiting , watch = watching , play = playing stay = staying เป็นต้นฯ
2.   คำกริยาที่ลงท้ายด้วย e (ตัวเดียว) ให้ลบ e ทิ้งก่อนเติม ing เช่น write = writing , make = making , come = coming / drive = driving , move = moving เป็นต้นฯ
3.   คำกริยาที่ลงท้ายด้วย ee (สองตัว) ให้เติม ing ได้ทันที เช่น  see = seeing , agree = agreeing , free = freeing
4.   คำกริยาที่เป็นคำพยางค์เดียว มีสระและพยัญชนะสะกดตัวเดียว มีเสียงสั้น ให้ซ้อนพยัญชนะตัวที่เหมือนกันกับตัวสะกดเพิ่มอีกหนึ่งตัว ก่อนเติม ing เช่น cut = cutting , sit = sitting , swim = swimming , hit = hitting , put = putting เป็นต้นฯ
5.   คำกริยาที่ลงท้ายด้วย ie ให้เปลี่ยน ie เป็น y ก่อนเติม ing เช่น lie = lying , die = dying , tie = tying






Exercise # 1: Change the following verbs into –ing form (gerund) เป็นกริยาต่อไปนี้ เป็น ing form หรือ Gerund




Build        =
buy           =
draw         =
fly            =
give          =
have         =
keep         =
learn         =
leave        =
lose          =             
meet         =
run           =
say           =
set            =
show         =
speak        =
swear       =
sing          =
take          =
teach        =
tell           =
win           =
wear         =
wake        =



Exercise #2: Complete the sentences with the correct forms of –ing form (Gerund) 
แต่งประโยคให้สมบูรณ์ด้วยรูปแบบของ ing ที่ถูกต้อง

1.                Peter and John ____________________the books in the bookstore. (buy)
2.                They want ______________________ shoes (run)
3.                Peter ___________________ the cartoon on his paper. (draw)
4.                He wants _______________ paper. (draw)
5.                John _________________ a letter to his parents. (write)
6.                He uses ________________ pen. (write)
7.                Smith likes __________________ (collect) stamps.
8.                ____________ stamps is his favourite  hobby. (collect)
9.                I go _________________ with my friends every Saturdays. (shop)
10.           My friends ____________________ with me yesterday morning. (shop)
11.           Leo likes ____________________ football with his friends. (play)
12.           Top and his brother don’t like _____________ English. (speak)
13.           English ___________ makes them bored. (speak)
14.           We _______________ English with Arjan Monthin Inkaew now. (learn)

15.           Arjan Monthien _________________ us English. (teach)